GLENFIDDICH เปิดตัว GRAND YOZAKURA  เสกสรรค์ช่วงเวลาสุดมหัศจรรย์แห่งความงามที่หายาก กับรสชาติจากสองวัฒนธรรมของโลก

1 min read

GLENFIDDICH เปิดตัว GRAND YOZAKURA ครั้งแรกในประเทศไทย

เสกสรรค์ช่วงเวลาสุดมหัศจรรย์แห่งความงามที่หายาก กับรสชาติจากสองวัฒนธรรมของโลก 

 กรุงเทพฯ ประเทศไทย มิถุนายน 2566 – เพื่อเป็นการรำลึกถึงช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองที่พิเศษดั่งต้องมนต์สะกด ล่าสุด Glenfiddich ภายใต้บริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สุดหรู การันตีคุณภาพด้วยรางวัลมากมายอย่าง William Grant & Sons จำกัด ได้เปิดตัว Grand Yozakura อีกหนึ่งความงดงามชั่วขณะสุดแสนพิเศษ สมาชิกใหม่ล่าสุดของ Glenfiddich Grand Series ในประเทศไทย โดยงานเปิดตัวจัดขึ้นที่ร้าน KINKI Progressive Dining & Bar ซึ่ง Glenfiddich ได้รังสรรค์ประสบการณ์แห่งความหรูหรา งดงาม และอาหารรสเลิศ พร้อมเฉลิมฉลอง Grand Yozakura รสชาติที่ดีที่สุดจากสกอตแลนด์และญี่ปุ่น

Glenfiddich Grand Yozakura ได้รับแรงบันดาลใจจากการเฉลิมฉลองเทศกาล “ฮานามิ” หรือเทศกาลดอกซากุระ ที่ชาวญี่ปุ่นจะชื่นชมความงดงามของธรรมชาติประจำฤดูกาลดอกซากุระ อันเป็นช่วงเวลาแห่งการเริ่มต้นใหม่ และการสร้างพลังบวกแก่ชีวิต โดยการชมเทศกาลดอกซากุระจะสวยงามที่สุดในยามค่ำคืนพร้อมไฟประดับประดา อันเป็นที่รู้จักกันในชื่อ Yozakura หรือ ‘ซากุระกลางคืน’ โดยช่วงความงามที่หายากเพียงชั่วขณะนี้ ได้ถูกบันทึกไว้เป็นของขวัญอันล้ำค่าที่ส่งมอบจากธรรมชาติ ซึ่งพาคุณดำดิ่งไปสู่ประสบการณ์ที่ผสานรวมวัฒนธรรมอันทรงเสน่ห์กับรสชาติชั้นเลิศ และหากการมาบรรจบกันระหว่างส่วนผสมหายากนี้หมดลงไปแล้ว จะไม่สามารถหาสิ่งใดมาเทียบเคียงได้

จากจิตวิญญาณแห่งความสร้างสรรค์และความแตกต่างเฉพาะตัว Glenfiddich จึงสรรค์สร้าง Grand Yozakura ซิงเกิลมอลต์สก็อตวิสกี้ตัวแรกที่ถูกบ่มในถังไม้บ่มเหล้าอาวาโมริ (Awamori) หายาก ซึ่งเป็นวิสกี้ที่ควรค่าแก่การบรรจุเป็นหนึ่งใน Glenfiddich Grand Series คอลเลคชันซิงเกิลมอลต์สุดเหนือระดับ ที่โดดเด่นด้วยนวัตกรรมการบ่มในถังไม้อันเป็นเอกลักษณ์ โดย Grand Yozakura คือวิสกี้อายุ 29 ปีที่บ่ม ณ โรงกลั่นวิสกี้ของ Glenfiddich ในเมืองดัฟฟ์ทาวน์          ประเทศสกอตแลนด์ และถูกนำมาบ่มอีกครั้งในถังไม้โอ๊ค ซึ่งก่อนหน้านี้ผ่านการบ่มสุรากลั่นที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นอย่างอาวาโมริ จึงทำให้ได้รสชาติที่ไม่เหมือนใคร โดยอาวาโมรินั้น เป็นเหล้าที่ผลิตขึ้นจากการนำข้าวอินดิก้าเมล็ดยาวมาแช่ไว้ในหม้อดินแบบดั้งเดิม แล้วจึงนำไปบ่มในถังไม้โอ๊ค กล่าวกันว่า เทคนิคการผลิตเช่นนี้ ได้ถูกส่งต่อสืบทอดกันมานานกว่า 500 ปี  และการบ่มอาวาโมริในถังไม้โอ๊คนั้นมีให้เห็นน้อยมาก จึงเป็นที่มาของความหายากและความพิเศษอย่างไม่มีใครเทียบเท่า

ในงานเฉลิมฉลอง Glenfiddich Grand Series และ Grand Yozakura ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ครั้งนี้ แขกผู้มีเกียรติได้ดื่มด่ำกับมื้ออาหาร 5 คอร์สที่รังสรรค์โดยเชฟ อาทิตย์ โพธิจร ผู้ใส่ใจในรายละเอียดการจับคู่เมนูอาหารรสเลิศแต่ละจานให้เข้ากับซิงเกิลมอลต์วิสกี้ Grand Yozakura รุ่นลิมิเต็ดเอดิชัน 29 ปีที่เพิ่งเปิดตัว รวมถึงเมนูที่จับคู่กับ Gran Reserva (21 ปี) Grand Cru (23 ปี) และ Grande Couronne (26 ปี) นอกจากนี้ อาวาโมริ เหล้าพื้นเมืองอันเป็นเอกลักษณ์ของโอกินาว่า ประเทศญี่ปุ่น ยังถูกเสิร์ฟควบคู่ไปกับเมนูบนโต๊ะอาหาร เพื่อสะท้อนถึงประเพณีอันยาวนานและงานฝีมือเก่าแก่จากถังอาวาโมริ ซึ่งใช้ในการผลิต Grand Yozakura อีกด้วย

 

  • เริ่มต้นคอร์สแรกด้วย ไคเซ็น ยุกเกะ ที่จับคู่อย่างประณีตกับ Gran Reserva (21 ปี) โดยคอร์สเรียกน้ำย่อยนี้ รังสรรค์จากปลาฮามาจิ ปลาทูน่าบลูฟิน ปลาแซลมอน อูนิ อิคุระ และคาเวียร์ ซึ่งคลุกเคล้ากับซอสสูตรเฉพาะของทางร้าน และน้ำมันงาเพื่อเพิ่มรสชาติ
  • ตามมาด้วยคอร์สที่สองกับจาน กุ้งลายเสือย่างซอสไข่ปลาเมนไทโกะรสชาติหอมมันและสาหร่ายย่าง  ที่เสิร์ฟคู่กับ Grand Cru (23 ปี) อย่างลงตัว
  • ถัดมาในคอร์สที่สามกับ ปลาฮามาจิ คาปาชิโอ สดใหม่ เสิร์ฟพร้อมซอสยูซุสูตรพิเศษจากเชฟ ท็อปด้วยอิคุระ และพริกฆาลาเปญโญเพื่อตัดเลี่ยน เพื่อสร้างมนต์เสน่ห์ที่ลงตัว เมื่อเสิร์ฟควบคู่กับ Grande Couronne (26 ปี)

  •  สำหรับดาวเด่นของค่ำคืน Grand Yozakura (29 ปี) ได้เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่พร้อมอาหารจานหลัก แต่ก่อนหน้านั้น แขกผู้มีเกียรติได้ลิ้มลองอาวาโมริ เพื่อดึงดูดต่อมรับรส และแสดงถึงเทคนิคและเอกลักษณ์พิเศษในการสรรค์สร้าง Grand Yozakura ซึ่งบ่มในถังไม้บ่มเหล้าอาวาโมริหายาก ตามมาด้วยการเผยโฉม Grand Yozakura ที่จับคู่อย่างลงตัวกับ แซนวิชเนื้อวากิว ท็อปด้วยฟัวกราส์ เห็ดทรัฟเฟิล เสิร์ฟพร้อมครีมซอส อันแสดงถึงการมาบรรจบกันอย่างสมบูรณ์แบบของสองวัฒนธรรม

  • ปิดท้ายด้วยคอร์สสุดท้าย ดังโงะ สามสี สามฟิลลิ่ง ซึ่งเสิร์ฟเป็นของหวานและเมนูล้างปาก กับไส้ช็อกโกแลตอัลมอนด์ ไวท์ช็อกโกแลตแมคคาเดเมีย ถั่วแดงเชื่อมญี่ปุ่นและแห้ว ราดด้วยซอสหวานคุโระมิซึ ที่สามารถทานควบคู่กับ อาวาโมริ เช่นกัน

เบรตต์ เบย์ลีย์ แบรนด์แอมบาสซาเดอร์ของ Glenfiddich ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า “Grand Series เป็นรากฐานของจิตวิญญาณแห่งนวัตกรรมของ Glenfiddich โดย Grand Yozakura ถือเป็นลิมิเต็ดอิดิชันรุ่นแรกของซีรีส์ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอันแปลกใหม่แหวกแนวที่สุดเท่าที่เปิดตัวมา เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เผยโฉม Grand Yozakura ให้กับผู้ที่ชื่นชอบวิสกี้และนักสะสมในประเทศไทย ซึ่งการคัดสรรส่วนผสมที่หายากสองชนิดมารวมกัน ช่วยเน้นย้ำถึงโอกาสพิเศษและการเฉลิมฉลองอันยิ่งใหญ่ ขณะเดียวกันก็แสดงถึงการสร้างสรรค์และนวัตกรรมที่ไม่หยุดนิ่งของ Glenfiddich ในกระบวนการสร้างวิสกี้ที่มีคุณภาพสูงสุด”

บรรจุภัณฑ์ของ Grand Yozakura ทำให้การมาบรรจบกันของสองวัฒนธรรมนั้นดูมีชีวิตชีวา ด้วยภาพประกอบอันเป็นเอกลักษณ์ โดย จูน ศิลปินชาวญี่ปุ่นผู้รังสรรค์วิสัยทัศน์ที่ผสมผสานวัฒนธรรมและภูมิทัศน์ของญี่ปุ่นเข้าด้วยกัน บรรจุภัณฑ์ประกอบด้วยท็อปเปอร์สั่งทำเฉพาะ และบทกวีแบบดั้งเดิมที่พิมพ์ลงบนกระดาษด้านนอกที่ออกแบบพิเศษ

Grand Yozakura เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดของ Glenfiddich Grand Series ต่อยอดจากผลิตภัณฑ์เดิม ได้แก่ Glenfiddich Gran Reserva เหล้าที่ผ่านการกลั่นอย่างประณีตมาเป็นเวลา 21 ปีในถังไม้โอ๊คของยุโรปและอเมริกา ก่อนจะนำมาบ่มครั้งสุดท้ายในถังเหล้ารัมแคริบเบียน Glenfiddich Grand Cru วิสกี้บ่ม 23 ปีในถังไม้โอ๊คของอเมริกาและยุโรป แล้วจึงนำมากลั่นในถังไม้โอ๊ค French Cuvée และตัวสุดท้าย Grande Couronne สก็อตวิสกี้อายุ 26 ปี ที่บ่มในถังไม้โอ๊คของอเมริกาและยุโรป ก่อนจะนำมาบ่มครั้งสุดท้ายเป็นเวลาถึงสองปีในถังคอนญักฝรั่งเศสที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Glenfiddich Grand Yozakura และรุ่นอื่น ๆ ได้ที่ www.Glenfiddich.com หรือติดตามผ่าน อินสตาแกรม @valleyofthedeer.th

#GlenfiddichGrandSeries #GrandYozakura #Glenfiddich

จโรงกลั่นในรูปแบบครอบครัวซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในสหราชอาณาจักร และก่อตั้งโดย วิลเลียม แกรนท์ ในปี 1887 ปัจจุบัน William Grant & Sons Holdings เป็นบริษัทผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พรีเมียมระดับโลก บริหารงานโดยครอบครัวรุ่นที่ 5 และผลิตเครื่องดื่มสก็อตวิสกี้ชั้นนำ อาทิ วิสกี้ซิงเกิลมอลต์ที่ได้รับรางวัลมากที่สุดในโลกอย่าง Glenfiddich® วิสกี้ซิงเกิลมอลต์ที่ผลิตอย่างพิถีพิถันพร้อมให้รสชาติหลากหลายอย่าง The Balvenie®  และเครื่องดื่มสก็อตผสมที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลกอย่าง Grant’s® รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชื่อดังมากมาย เช่น Hendrick’s® Gin, Sailor Jerry®, Tullamore D.E.W.® Irish Whiskey, Monkey Shoulder® and Drambuie®, Reyka® Vodka and Milagro® Tequila เป็นต้น

William Grant มีจุดเริ่มต้นมาจากการกลั่นเหล้าเนื่องในโอกาสวันคริสต์มาสปี 1887 การนำวิธีและแนวปฏิบัติที่เข้ามาปฏิวัติวงการและทัศนคติอันเป็นอิสระของ Grant มาใช้ในการผลิตวิสกี้ได้ผลักดัน Glenfiddich สู่ความเป็นเลิศมานานกว่าร้อยสามสิบปี และกลายเป็นซิงเกิลมอลต์วิสกี้ตัวแรกที่ได้รับการโปรโมตนอกสกอตแลนด์ และท้ายที่สุด ซิงเกิลมอลต์วิสกี้ที่ขายดีที่สุดและได้รับรางวัลมากที่สุดในโลก

ปัจจุบัน Glenfiddich จำหน่ายในกว่า 180 ประเทศทั่วโลก แบรนด์นี้เป็นหนึ่งในโรงกลั่นมอลต์เดี่ยวไม่กี่แห่งที่ยังคงเป็นโรงกลั่นของครอบครัว และยังคงผลิตในโรงกลั่นเดียวกันกับที่ William Grant และลูก ๆ ของเขาสร้างขึ้นด้วยมือ

You May Also Like

More From Author