กรุงเทพฯ, 12 มีนาคม 2568 – โรยัล เอ็นฟีลด์ (Royal Enfield) แบรนด์รถมอเตอร์ไซค์ระดับตำนานและผู้นำตลาดรถมอเตอร์ไซค์ขนาดกลางระดับโลก ตอกย้ำความสำเร็จในประเทศไทยด้วยการคว้ารางวัลอันทรงเกียรติมากมาย แสดงถึงความเป็นผู้นำและอิทธิพลที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคนี้
ในงานประกาศรางวัล “Thailand Bike of The Year 2025” อันทรงเกียรติ โรยัล เอ็นฟีลด์ คว้า 3 รางวัลใหญ่ ได้แก่:
– Shotgun 650 – รางวัลรถโมเดิร์นคลาสสิกขนาดกลางยอดเยี่ยม (Best Modern Classic Middle Weight)
– Super Meteor 650 – รางวัลรถครุยเซอร์ที่คุ้มค่าที่สุด (Best Value Cruiser)
– Himalayan 450 – รางวัลรถโมเดิร์นแอดเวนเจอร์ทัวริ่ง (Modern Adventure Touring)
รางวัล “Thailand Bike of The Year” จัดโดยบริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เพื่อยกย่องรถมอเตอร์ไซค์ยอดเยี่ยมในหลากหลายประเภท โดยพิจารณาจากนวัตกรรม สมรรถนะ ความปลอดภัย เทคโนโลยี และการออกแบบ ตัดสินโดยคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมและนักทดสอบรถมอเตอร์ไซค์จากทั่วประเทศไทย รางวัลนี้จึงสะท้อนถึงความนิยมของโรยัล เอ็นฟีลด์ ในหมู่ผู้ขับขี่ชาวไทย
นอกจากนี้ โรยัล เอ็นฟีลด์ ยังสร้างชื่อเสียงอย่างต่อเนื่องในงาน “Global Business Symposium 2025” ที่กรุงเทพฯ โดยได้รับ 2 รางวัลอันทรงเกียรติ ได้แก่ “Pride of Asia” และการยกย่องในฐานะ “Prestigious Brands of Asia 2024-25” อีกทั้ง โมหิต ดาร์ จายาล (Mohit Dhar Jayal) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายแบรนด์ของโรยัล เอ็นฟีลด์ ยังได้รับรางวัล “Marketing Meister” อีกด้วย
รางวัลเหล่านี้จัดโดย Herald Global และ BARC Asia เพื่อเชิดชูแบรนด์ที่โดดเด่นในอุตสาหกรรมของตน และเป็นผู้กำหนดมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดเอเชีย
– โรยัล เอ็นฟีลด์ สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการรถมอเตอร์ไซค์
– โรยัล เอ็นฟีลด์ Shotgun 650: รถมอเตอร์ไซค์ที่ได้แรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมการคัสตอมรถ โดดเด่นด้วยการออกแบบที่ปรับแต่งได้ตามสไตล์ผู้ขับขี่ และดีไซน์ที่ผสมผสานความทันสมัยเข้ากับเอกลักษณ์คลาสสิกของโรยัล เอ็นฟีลด์
– Super Meteor 650: สืบทอดตำนานของโรยัล เอ็นฟีลด์ ในฐานะผู้นำรถครุยเซอร์ระดับพรีเมียม พัฒนาบนแพลตฟอร์มเครื่องยนต์ 648cc Twin ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก
– Royal Enfield Himalayan 450: รถมอเตอร์ไซค์สายแอดเวนเจอร์ที่แท้จริง ออกแบบมาเพื่อรองรับทุกเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นทางเรียบหรือออฟโรด ด้วยสมรรถนะที่พร้อมลุยทุกสถานการณ์ ทำให้ Himalayan 450 เป็นตัวแทนของจิตวิญญาณแห่งการผจญภัยของโรยัล เอ็นฟีลด์
ก้าวสำคัญของโรยัล เอ็นฟีลด์ ในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
คุณอนุจ ดัว (Anuj Dua) หัวหน้าฝ่ายธุรกิจประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของโรยัล เอ็นฟีลด์ กล่าวว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติทั้งในประเทศไทยและทั่วเอเชีย การคว้าหลายรางวัลจาก “Thailand Bike of The Year” รวมถึงรางวัล “Pride of Asia” และ “Prestigious Brands of Asia” แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการนำเสนอรถมอเตอร์ไซค์ที่ผสมผสานเอกลักษณ์ดั้งเดิม นวัตกรรม และสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม โรยัล เอ็นฟีลด์ ทุ่มเทในการสร้างรถมอเตอร์ไซค์ระดับโลกที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นด้านการวิจัยและพัฒนา การออกแบบ วิศวกรรม หรือเทคโนโลยี รถมอเตอร์ไซค์ของเราสะท้อนให้เห็นถึงความทุ่มเทเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี รางวัลเหล่านี้ยืนยันถึงความพยายามของเรา และเรายังคงเดินหน้าสู่เป้าหมายระยะยาว นั่นคือการทำให้รถมอเตอร์ไซค์ขนาดกลางเป็นที่เข้าถึงได้ทั่วโลก พร้อมตอบสนองความต้องการของนักขี่ที่หลากหลายทั่วทั้งภูมิภาค”
โรยัล เอ็นฟีลด์ มีชุมชนผู้ขับขี่ที่แข็งแกร่งและเหนียวแน่นในประเทศไทยและทั่วเอเชียแปซิฟิก ซึ่งแบรนด์ยังคงขยายเครือข่ายและช่องทางการเข้าถึงในภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำเสนอรถมอเตอร์ไซค์ที่มีเอกลักษณ์และสร้างแรงบันดาลใจ ให้เหมาะกับผู้ขับขี่ในทุกสไตล์
สำหรับชาวไทยที่หลงใหลในรถมอเตอร์ไซค์ สามารถสัมผัส Shotgun 650, Super Meteor 650, Himalayan 450 และรุ่นอื่นๆ ของโรยัล เอ็นฟีลด์ ได้ที่โชว์รูมโรยัล เอ็นฟีลด์ ทั่วประเทศแล้ววันนี้
เกี่ยวกับโรยัล เอ็นฟีลด์:
Royal Enfield แบรนด์รถจักรยานยนต์ที่มีสายการผลิตต่อเนื่องยาวนานที่สุดในโลก ได้สร้างสรรค์รถจักรยานยนต์ที่สง่างามมีเอกลักษณ์มาตั้งแต่ปี 1901 จากต้นกำเนิดในประเทศอังกฤษ ได้ส่งต่อศาสตร์แห่งการสร้างสรรค์อันล้ำค่ามาสู่โรงงานผลิตในเมือง Madras เมื่อปี 1955 นับเป็นฐานการผลิตสำคัญที่ Royal Enfield สร้างการเติบโตให้กับอุตสาหกรรมรถสองล้อขนาดกลางในประเทศอินเดีย เสน่ห์และความน่าสนใจของ Royal Enfield คือความมีเอกลักษณ์ ไม่ซับซ้อน เข้าถึงได้ พร้อมมอบประสบการณ์ที่สนุกสนานในการขับขี่ นับเป็นยานพาหนะที่เหมาะในการสำรวจเปิดโลก และแสดงออกถึงบุคลิกที่มีเอกลักษณ์ของผู้ขับ ซึ่งเป็นแนวทางที่แบรนด์เรียกว่า Pure Motorcycling
กลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมของ Royal Enfield ได้แก่ รุ่นใหม่ไฟฟ้า, Flying Flea – ประกอบด้วย Classic-styled Flying Flea C6 และ Scrambler-styled Flying Flea S6 ที่เปิดตัว ณ เมืองมิลาน อิตาลี อีกทั้งยังมี the, Bear 650, Classic 650, Guerrilla 450 modern roadster, Hunter 350, Meteor 350, Super Meteor 650, Interceptor 650 และ Continental GT 650 twins, the Shotgun 650, the new Himalayan adventure tourer, the Scram 411 ADV Crossover, the iconic Bullet 350, Classic 350 and the new Goan Classic 350. ซึ่งเป็นการรวมตัวประจำปีของผู้ที่ชื่นชอบ Royal Enfield หลากหลายพันคน จัดขึ้นที่รัฐโกอา ประเทศอินเดีย และยังมีงาน Himalayan Odyssey ซึ่งเป็นการเดินทางประจำปีบนภูมิประเทศที่ท้าทายที่สุด ผ่านภูเขาที่สูงที่สุด และสามารถสร้างความประทับใจได้มากที่สุดเช่นกัน
Royal Enfield คือหนึ่งในกลุ่มธุรกิจของ Eicher Motors Limited ดำเนินธุรกิจผ่านตัวแทนจำหน่ายกว่า 2,000 แห่ง ทั่วเมืองใหญ่ในอินเดีย รวมถึงมีการส่งออกไปสู่ 850 สโตร์ในอีกกว่า 60 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ Royal Enfield ยังมีศูนย์ดูแลเชิงเทคนิคระดับโลกสองแห่งในเมือง Bruntingthorpe สหราชอาณาจักร และในเมือง Chennai ประเทศอินเดีย โดยโรงงานผลิตที่ทันสมัยทั้งสองแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่ Oragadam และ Vallam Vadagal ใกล้กับเมือง Chennai ประเทศอินเดีย นอกจากนี้ Royal Enfield ยังมีโรงงานประกอบ CKD อันทันสมัย 5 แห่งทั่วโลก ได้แก่ เนปาล บราซิล ประเทศไทย อาร์เจนตินา และโคลอมเบีย